Inspired By Noir | ‘Begin’ ทีมเต้นผู้เดินตามความฝันกับเส้นทางที่เต็มไปด้วยคำครหาและไร้แรงซัพพอร์ต
เต้นกินรำกินมันได้อะไร
"ได้ชีวิต" คำกล่าวจากครูสอนเต้นฮาฟ วัย 25 ปี เธอเป็นหนึ่งในผู้นำทีม Begin ร่วมกับปอนด์ พนักงานบริษัทเอกชน วัย 25 ปี
Begin คือทีมนักเต้นไทยที่ได้ไปแข่งขันรายการ World AGC ซึ่งเป็นรายการเต้นระดับโลก จากการแข่งขันครั้งล่าสุดที่เพิ่งจบไปนี้ ฮาฟและปอนด์รู้สึกตื่นเต้นกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากต้องพาทีมไปกันเอง ไม่มีหน่วยงานและผู้ปกครองคอยดูแล ปอนด์บอกว่า "เมื่อก่อนเราจะเป็นผู้ตามมาโดยตลอดเลย ไม่ค่อยได้มีความรับผิดชอบอะไรนอกจากเรื่องตัวเราเองกับหน้าที่ที่ต้องเต้น แต่พอเราได้เป็นผู้นำ ความรับผิดชอบมันถาโถมมาค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นน้องในทีม ตัวเราเอง หรือค่าใช้จ่าย ในการทำทีมครั้งนี้ สำหรับผมมันยกระดับความท้าทาย ความเป็นตัวเองค่อนข้างสูงมาก ๆ เพราะเรามีน้อง ๆ ที่ไว้ใจเรา เราก็ไว้ใจน้องเค้าด้วย" ฮาฟกล่าวเสริมต่อ "หลาย ๆ อย่างมันท้าทายสำหรับพวกเรา มันมีทั้งเรื่องแข่งและการใช้ชีวิตที่ต่างประเทศด้วย ก็...ค่อนข้างสนุกค่ะ"
แต่กว่าจะเลือกเดินทางสายนี้ได้อย่างเต็มภาคภูมิ ต้องพบเจอกับถ้อยคำสบประมาทจากคนรอบข้างที่มักจะซ้ำเติมเสมอ คำว่า เต้นกินรำกิน มักเป็นประโยคคุ้นหู ปฏิเสธไม่ได้ว่าค่านิยมที่จำเป็นจะต้องเรียนเพื่อประกอบอาชีพมั่นคงในสังคมเรายังมีอยู่ หากใครมีความฝันที่แตกต่างออกไปมักจะไม่ได้รับการยอมรับและสนับสนุน
ถึงอย่างนั้น การได้ เต้นกินรำกิน กลับทำให้พวกเขามีความสุข ฮาฟกล่าวว่า "การเต้นทำให้เราเป็นคนที่ดีขึ้น เป็นคนที่เราไม่คิดว่าจะเป็นได้ บางทีเราอาจจะดูเป็นเด็กน้อยในสายตาพ่อแม่ แต่สำหรับวงการนี้เราเป็นครูที่ต่อยอดให้เค้าได้ เป็นเพื่อนคอย support คน ๆ นึงได้ สามารถเป็นหัวหน้าทีมที่พาเด็กคนนึงไปถึงฝันได้ และยังเป็นนักตามล่าฝันของตัวเราเอง มันทำให้เราเติบโต" นี่คงเป็นความหมายของ 'ชีวิต' ที่ฮาฟได้จากการเต้นของเธอ
---
Step up!
การได้เข้าไปอยู่ในบรรยากาศที่มีแต่นักเต้นแบบนั้น (ในต่างประเทศ) รู้สึกยังไงบ้าง
"ตื่นเต้น! เหมือนอยู่ในหนัง Step up เลย แววตาทุกคนเป็นประกายเพราะมันจ้องในสิ่งเดียวกัน ต่อให้เต้นอะไรก็ตาม จะมีเสียงคอย support อยู่เสมอ" ฮาฟ
เสียง support นั้นคือคู่แข่งเรา?
"ใช่ ๆๆๆ (ปอนด์ตอบ) เราแข่งกันบนเวทีจริงตามกติกา แต่พอลงมาแล้วเราคือเพื่อนกัน เราสามารถเดินไป support ว่าสู้ ๆ แล้วเดี๋ยวรอเชียร์ ส่วนผลคะแนนก็ให้เป็นเรื่องของกรรมการ" ฮาฟ
การเต้นให้ทั้งชีวิตและมิตรภาพ แรงเชียร์ที่ส่งมาแม้จะเป็นคู่แข่งกันบนเวที เมื่อการแข่งขันจบยังสามารถเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ เพราะสังคมในที่แห่งนั้น ทุกคนล้วนมีแพชชันเดียวกันนั่นคือ 'การเต้น'
ฮาฟกล่าว "ไม่ว่าคุณจะเป็นใครมาจากไหนหรือคุณทำอะไรมาก่อน แต่อยู่ตรงนั้นคุณคือนักเต้น เราเท่ากัน"
---
ปลายทางของนักเต้น
ปลายทางความสำเร็จของนักเต้นจะเป็นยังไงต่อ
"หาจุดจบไม่ได้เลย ฮาฟรู้สึกว่าคนที่เค้าเลือกจะหยุดเค้าพอใจแล้ว แต่ฮาฟรู้สึกว่าการเต้นมันเหมือนเราฟังเพลง เราฟังมันได้ตลอดชีวิต วันนี้เราไม่อยากฟังก็แค่ไปดูทีวี แวะไปทำอย่างอื่น แต่สุดท้ายแล้วเราก็จะมีมันอยู่ข้างเราเสมอ วันไหนที่เราอยากกลับมาเต้น เราก็มีมันอยู่ ฮาฟเลยรู้สึกว่ามันไม่มีปลายทางตายตัว" ฮาฟ
ถ้าเป็นอาชีพ สามารถเป็นอะไรได้บ้าง
"น่าจะ Dancer ศิลปิน, Dancer concert, choreographer ศิลปิน หรือเป็นศิลปิน" ฮาฟ
"ไม่ก็ทำเป็นค่าย Trainee" ปอนด์
หากรู้สึกลังเล แล้วควรเลือกไปทางนี้ดีไหม
"มันมีความลังเลทุกคนแหละว่าจะเริ่มหรือจะไปต่อยังไงดี อย่างแรกคือต้องเชื่อมั่นก่อน ว่าสิ่งที่คุณทำอยู่คืออะไร แล้วสิ่งที่กำลังจะทำต่อไปมันคืออะไร ผมว่ายังไงคุณก็ควรจะต้องลอง ต้องเลือกตัดสินใจฉึบเลยว่าฉันจะไปอันนี้ ตัดความลังเลทิ้งให้หมดแล้วต้องพุ่งไปเลย" ปอนด์
ที่สำคัญคือเราต้องจอยกับมัน?
"ใช่ (ปอนด์ตอบ) อย่าลืมความสุขแรกที่เราได้ลองทำและอย่าลืมสีสันของมัน ไม่งั้นมันจะกลายเป็นไม่ชอบในสิ่งที่เราเคยชอบ ทำยังไงก็ได้ให้เรายังชอบมันอยู่ แม้วันนั้นมันจะไม่น่าชอบแล้วก็ตาม ถ้าชอบเต้นมาก ๆ พอถึงจุดหนึ่งมันจะมีความกดดันเข้ามา ให้จำวันแรกที่อยากขยับตัวแบบวันนั้นเอาไว้เยอะ ๆ" ฮาฟ
---
รางวัลที่สูญเปล่า
ไม่ว่าจะกับฮาฟ ปอนด์และทีมเต้นทีมอื่น ๆ ที่เคยไปแข่งจนได้รางวัลระดับโลกมาหลายรายการในนามของ Thailand ทั้งหมดนี้ล้วนไปด้วยความพยายามจากตัวของพวกเขาเอง แต่สุดท้ายแล้วกลับไม่ได้รับการสนใจเท่าที่ควร สังคมยังคงมองว่าเป็นอาชีพไม่แน่นอน และประโยค เต้นกินรำกิน ยังคงอยู่
ฮาฟบอกว่า "อยากให้มองว่าเราเป็นนักกีฬาคนหนึ่ง เหมือนที่ breakdance ได้บรรจุเข้าในโอลิมปิก มันเลยมีสถาบันมารองรับ ทั้งประเทศมีเด็กแข่งเต้น แต่ทุกวันนี้ซ้อมกับพื้นปูน โรงยิม พื้นปูนโรงรถ ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีห้องซ้อม ขนาดเราซ้อมกันใต้ทางด่วน ใต้สะพาน เรายังเป็นแชมป์โลกได้เลย"
แม้จะไม่มีแรง support จากภาครัฐเลย พวกเขายังสามารถคว้าแชมป์ได้ขนาดนี้ ฮาฟบอกว่าเธอรู้สึกเสียดาย หากได้รับการ support ได้รับการดูแลด้านสุขภาพ ด้านสถานที่ การพาเราไปแข่งขัน คงสามารถพาทีมกวาดรางวัลมาให้มากกว่านี้ได้อีก
ปอนด์กล่าวเสริมว่า "ที่จริงเด็กไทยเก่งมาก ๆ แต่สิ่งที่ขาดคือโอกาส สิ่งเดียวที่ทำให้เราถึงตรงนั้นได้มีแค่ตัวเราเอง เด็กไทยเราเป็นแชมป์ติดต่อกันหลายปีแต่ข่าวมันเงียบมาก เงียบหายไปเลยและมีแค่คนในวงการที่รู้"
ชื่อเสียงของประเทศที่เหล่าทีมนักเต้นได้สร้างเอาไว้ กลับไม่มีผลตอบแทนใด ๆ จากความพยายามของพวกเขา ตั้งแต่ที่เริ่มทำตามความฝันอยากจะเป็นนักเต้น ก็โดนประโยคตอกกลับอย่างดูถูก พอมาถึงวันที่สามารถทำได้สำเร็จก็ยังไม่มีใครยืนปรบมือชื่นชม มีเพียงแค่นักเต้นที่มีแพชชันแบบเดียวกันเท่านั้นที่คอยเชียร์อัพ ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังยืนยันมุ่งมั่นในความสุขและความฝันของตนเองต่อไป
BEGIN กับการเต้นที่ไกลกว่า "เต้นกินรำกิน" | Inspired By Noir EP
-----
About the author: ฬ. Jula