ทำตัวไร้สาระบ้างก็ได้ โลกไม่ได้พังสักหน่อย
"มัวแต่ทำเรื่องไร้สาระอยู่นั่นแหละ แล้วในอนาคตจะประสบความสำเร็จได้ยังไง"
ในโลกทุนนิยมที่ฟันเฟืองอย่างมนุษย์เรามักได้ยินประโยคนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่า หากต้องการประสบความสำเร็จ เวลาแสนล้ำค่านั้นต้องใช้อย่างมีประโยชน์ การนำมันไปพักผ่อนหรือทำเรื่องไร้สาระนั่นเท่ากับว่าชีวิตคุณไร้ค่าไปแล้ว
ด้วยเทคโนโลยีทุกวันนี้ มันทำให้คนเสพสื่อโซเชียลกันมากขึ้นจนติดอยู่ในหลุมของมายาคติที่เรียกว่า ความสมบูรณ์แบบ เรื่องราวในด้านดีมักเอาลงอวด แต่เบื้องหลังเป็นอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ เมื่อเห็นแต่ด้านดี ๆ ของคนในโซเชียล อาจเกิดการนำมาเปรียบเทียบและกดดันตัวเองที่ไม่สามารถพยายามได้เท่าคนอื่น แต่อย่าลืมสิ ร่างกายเราไม่ใช่เครื่องจักรนะ ดังนั้นการปล่อยให้ร่างกายเราได้พักผ่อน หรือทำอะไรที่มันไร้สาระที่สุดในชีวิตบ้างมันก็ไม่ใช่เรื่องแย่หรอก
ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวเจอร์ซีย์ พบว่า การเม้ามอยอย่างไร้สาระเป็นเวลา 15 นาทีต่อวันนั้นมีแรงจูงใจในการทำงาน ได้รับอารมณ์เชิงบวก มีการสร้างบรรยากาศที่ดีและส่งเสริมสายสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ต่างจากการไม่ได้เม้ามอยเรื่องไร้สาระเลยกลับหมดแรงจูงใจในการทำงานง่ายขึ้น รวมถึง ดร.บาร์บาร่า โคลทัสก้า-ฮัสกิ้น นักประสาทวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง ได้กล่าวว่า "ร่างกายและสมองของคนเราต้องการวันหยุด เมื่อได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ และความสัมพันธ์ก็จะดีขึ้นด้วย"
เพราะฉะนั้นการปล่อยจอยกับชีวิตก็ไม่ได้แย่เสมอไป แถมยังส่งผลดีต่อตัวเราเองด้วยซ้ำ แม้การทำเรื่องไร้สาระจะขัดกับมายาคติของความสมบูรณ์แบบที่ล่องลอยอยู่ในโซเชียลราวกับฟองสบู่ รวมถึงแนวคิดที่ต้องทุ่มเทกับงานให้มากที่สุดโดยไม่ปล่อยเวลาว่างไปโดยเปล่าประโยชน์ก็ตาม แต่ผลลัพธ์ทั้งต่อตัวเราและงานที่ออกมาอาจจะดีกว่าที่คิดเสียอีก
ที่มา
กรุงเทพธุรกิจ วิจัยชี้แค่ 'วางแผนเที่ยว' ก็อารมณ์ดี ..แล้ว 'พักร้อน' แบบไหนได้ประโยชน์
THE MATTER มีชีวิตที่ไร้สาระบ้างก็ได้ ทำไมการปล่อยให้ตัวเองขี้เกียจบางเวลาอาจทำให้ชีวิตดีขึ้น
Wong-nai วิจัยเผย เม้าท์มอยเรื่องไร้สาระ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้
-----
About the author: ฬ. Jula