แชร์

จะเก่งแค่ไหน ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับทุนนิยม

อัพเดทล่าสุด: 29 มิ.ย. 2024
200 ผู้เข้าชม

หากจะให้พูดถึงความเก่งของเด็กไทย เรียกได้ว่าเราแทบจะไม่แพ้ชาติใดในโลก ไม่ว่าจะด้านวิชาการหรือศิลปะ ประเทศไทยเราได้เป็นหนึ่งในตัวเต็งอันดับต้น ๆ ทั้งสิ้น ยังไม่รวมถึงรายการแข่งขันบนจอโทรทัศน์เพื่อชิงทุนการศึกษาหรือวัดความรู้ต่าง ๆ

เด็กในวัยนั้นล้วนมีความรู้รอบตัว สามารถตอบปัญหาเชาว์ มีความสามารถในการโต้วาทีที่เรียกได้ว่านอกจากลับฝีปากให้คมแล้ว หัวต้องไว รู้จักสังเกตคู่ต่อสู้เพื่อ Defended ให้กับประเด็นใดประเด็นหนึ่งได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล และเด็กไทยเอง ก็ไม่ได้เรียนน้อยลงเลย ชั่วโมงการเรียนแต่ละวันเกือบ ๆ สิบชั่วโมงได้ อีกทั้งแต่ละวิชาก็ยังต้องมีการบ้าน มีแบบฝึกหัดทิ้งท้ายชั่วโมงเรียน กระนั้นกลับยังมีคนที่ได้เกรด 4.00 เป็นที่หนึ่งของห้อง ที่หนึ่งของระดับชั้น หรือที่หนึ่งของโรงเรียน

จากที่กล่าวมาทั้งหมด นั่นคือความเก่งของเด็กไทยที่สามารถเอาตัวรอดในระบบการศึกษาได้เป็นอย่างดี พวกเขายังพร้อมที่จะทำตามความฝัน ได้เรียนในสิ่งที่ตนเองชอบ หรือบางคน แม้จะยังหาความฝันของตนเองไม่เจอ แต่ก็มักจะถูกปลูกฝังจากผู้ใหญ่เสมอว่า ให้เรียนสูง ๆ เกรดดี ๆ ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 นะ แล้วจะช่วยให้ประสบความสำเร็จ มีการงานที่มั่นคง มีเงินใช้พอจ่ายในแต่ละวันอย่างไม่ขัดสน

ทว่าการเติบโตมันไม่เคยง่าย ความยากลำบากของการใช้ชีวิตและหนทางในการก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่มีแต่จะยิ่งพรากรอยยิ้มที่เคยมีในวัยเด็กไป หลายคนที่เคยเรียนเก่ง ได้เป็นตัวเต็งของโรงเรียน ดีกรีเด็กทุน เรียนจบได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ด้วยเกรด 4.00 แต่เวลานี้ เด็กในตอนนั้นล้วนเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ suffer ไปกับโลกทุนนิยม สุขภาพจิตโดนกัดกร่อนจนไม่เหลือซาก รู้สึกเกลียดการทำงาน เกลียดการต้องตื่นเช้าขึ้นมาทุก ๆ วันจันทร์ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นใหม่ของสัปดาห์ แต่จะรู้สึกชื่นชอบวันศุกร์เป็นพิเศษเพราะได้หยุดพักจากการทำงานตั้ง 48 ชั่วโมง แล้วก็ต้องตื่นมาใช้ชีวิตกับการทำงานอีกครั้งของวันจันทร์สัปดาห์ถัดไปวนลูปอยู่อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเกษียณ

แต่ก็นั่นแหละ เพราะสังคมเป็นแบบนี้ ไม่ว่าใครที่เคยเก่งแค่ไหนในอดีตมาก่อน ล้วนต้องมา suffer กับการทำงานในโลกทุนนิยมอยู่ดี

หนึ่งในสิ่งที่รุ่นพี่วัยทำงานได้บอกเอาไว้และเราอยากนำมาแชร์ต่อคือ

"ไม่ว่าจะเคยเก่งขนาดไหน สุดท้ายก็ไปเจอจุดเดียวกันหมด พออยู่ในโลกการทำงานมันคือการใช้ทักษะเพื่อเอาตัวรอด ไม่เกี่ยวข้องกับเกรดหรือหรือเกียรตินิยมที่เคยได้รับ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติมากที่ที่จะต้อง struggle กับมันต่อไปเรื่อย ๆ การหาความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ จากมัน อาจจะช่วยให้เราเอาตัวรอดในก้าวต่อ ๆ ไปของเส้นทางชีวิตก็ได้ และก้าวของเพื่อนกับเราไม่จำเป็นต้องเท่ากัน เดินมาได้ไกลมากเท่านี้ก็เก่งแล้ว ชื่นชมตัวเองหน่อยนะ"


---

About the author: ฬ. Jula


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy