เอมิล เคร็บส์ ต้นแบบของการเรียนหลายภาษาด้วยวิธีการเรียนรู้แบบ “เด็ก”
ปัจจุบันการเรียนภาษาถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่ด้วยความซับซ้อนทางภาษาที่มีความยาก-ง่ายแตกต่างกันและรูปแบบการเรียนการสอนที่เน้นไวยกรณ์มากเกินไป ก็อาจจะทำให้หลายคนมองว่าการเรียนภาษานั้นเป็นเรื่องยากและเกิดความกลัวหรือท้อแท้ได้ เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยกลัวการพูดคุยกับชาวต่างชาติมากๆไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไงดี แต่รู้หรือไม่ว่าในความเป็นจริงแล้วคนเราสามารถเรียนรู้ภาษาใหม่ ๆ ได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น! ด้วยวิธีการเรียนรู้แบบ เด็ก อย่างการฟังและการลอกเลียนแบบ หรือก็คือวิธีที่ เอมิล เคร็บส์ อัจฉริยะด้านภาษาผู้พูดได้ถึง 68 ภาษาใช้นั่นเอง! รวมถึงเคล็ดลับอื่น ๆ ที่เราจะนำมาแชร์ในวันนี้อีกด้วย
.
ก่อนอื่นเราจะพาทุกคนมารู้จักกับ เอมิล เครบส์ (Emil Krebs) เขาเกิดในวันที่ 15 พฤศจิกายน 1867 (พ.ศ.2410) ในเมืองไฟรบวร์ก (Freiburg) เป็นบุตรของช่างไม้ชาวเยอรมัน วันหนึ่งในตอนที่เขาอายุได้ 7 ปี เขาได้ค้นพบหนังสือพิมพ์เก่าในภาษาฝรั่งเศส คุณครูที่โรงเรียนจึงได้นำพจนานุกรมภาษาฝรั่งเศส-ภาษาเยอรมันให้กับเขา โดยที่ไม่ได้สอนภาษานั้น ๆ ให้กับเขา แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อเคร็บส์สามารถพูดภาษาฝรั่งเศสได้ด้วยพจนานุกรมเพียงเล่มเดียวและใช้เวลาเรียนรู้ด้วยตนเองเพียงไม่กี่เดือน เขาไม่เพียงแต่เรียนรู้ภาษาฝรั่งเศสเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เขายังเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ อีก 11 ภาษาในช่วงที่ศึกษาระดับมัธยม
.
เทคนิคการเรียนภาษาของเขาไม่ใช่เทคนิคที่ยิ่งใหญ่อย่างการท่องจำตำราอย่างหนัก แต่เป็นการใช้การเรียนรู้แบบ เด็ก ที่เรียนรู้ผ่านการฟังและการลอกเลียนแบบ โดยตัดการท่องไวยกรณ์ที่ยากๆ ออกไป ซึ่งการข้ามสิ่งที่ซับซ้อนเหล่านี้จะช่วยลดความรู้สึกผิดพลาดในการใช้ภาษาลง ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ เช่น การที่เราจะบอกว่าเรากินข้าวแล้ว ถ้าเรายึดติดกับไวยกรณ์มากเกินไปก็จะยิ่งทำให้เรากลัวว่าจะพูดผิดไวยกรณ์ และทำให้เราไม่กล้าพูด วิธีการของเคร็บส์จึงเหมือนกับกำลังสอนเราว่าให้มองโลก ง่ายขึ้น แล้วหลาย ๆ สิ่งรอบตัวจะง่ายขึ้นตาม
.
วิธีการของ เคร็บส์ เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบบางอย่างในสมองของคนเราซึ่งสามารถนำไปใช้โดยอัตโนมัติกับภาษาต่างๆโดยไม่ต้องแปลเป็นภาษาของตนเอง สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเรียนรู้ด้วยวิธีนี้ คือ การทวนคำและวลีซ้ำๆ และเรียนรู้ประโยคสำคัญๆที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นวิธีที่จะทำให้เราใช้เวลาในการสื่อสารภาษาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ถ้ายังนึกภาพไม่ออกให้คุณลองนึกถึงเด็กหัดพูดที่เริ่มพูดคำแรก เช่นคำว่า พ่อ,แม่,หรือคำอื่น ๆ ที่เขาได้ยินมา เด็กๆไม่ได้เข้าใจสิ่งที่เขาพูดในทันทีแต่เป็นเพียงการลอกเลียนแบบจากสิ่งรอบตัวและการทำซ้ำเท่านั้น เมื่อฝึกฝนทำซ้ำๆจะทำให้เกิดการสะสมคลังคำศัพท์อย่างอัตโนมัติ จนสามารถพูดได้อย่างคล่องแคล่ว จะเห็นได้ว่ากระบวนการคิดของเด็กไม่จำเป็นต้องมีการเรียนรู้ที่ซับซ้อนเข้ามาเกี่ยวข้องก็ทำให้สามารถเรียนรู้ภาษาได้แล้ว เราจึงสรุปวิธีการเรียนรู้ง่าย ๆ ได้ 3 ขั้นตอน คือ 1.ฟัง จะจากเพลง, หนัง, หรือเจ้าของภาษาเองก็ได้ 2.ฝึกพูดตามและทบทวน และ 3.ทำความเข้าใจคำศัพท์ วลีหรือประโยคอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ก็ยังมีวิธีอื่น ๆ อีกมากมายที่จะช่วยให้เราเรียนภาษาได้ เช่น การเรียนจากแอปพลิเคชันสอนภาษา, การจดบันทึกคำศัพท์ใหม่ๆที่เจอ, การอ่านหนังสือหรือบทความต่างประเทศ เป็นต้น
.
สำหรับใครที่รู้สึกว่าอยากลองเรียนภาษา ให้คุณลองนำวิธีการเรียนรู้แบบเคร็บส์และวิธีอื่น ๆ มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวคุณเพื่อให้ได้วิธีที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง และหวังว่าคุณจะมีความสุขกับการเรียนภาษามากยิ่งขึ้นนะคะ
ขอบคุณที่มา :
วิกิพีเดีย
British Council
Krebs Method Thailand
สำรวจโลก
about the author
กานต์ธิดา
#เก่งภาษา #ภาษาอังกฤษ #thestudy