แชร์

บาดแผลของศิลปินยุค 90 “นาวิน ต้าร์” กับความคาดหวังของสังคม และความคาดหวังในตัวเอง

อัพเดทล่าสุด: 5 มิ.ย. 2024
14944 ผู้เข้าชม

ครั้งหนึ่ง นาวิน ต้าร์ ศิลปินแกรมมี่ดาวรุ่งยุค 90 เคยเป็นไอดอลของใครหลาย ๆ คนมาก่อน ไม่ว่าจะความสามารถทางการเรียน ร้องเพลง กีฬา รวมไปถึงความสามารถในการแสดงของเขา ล้วนเป็นภาพเบื้องหน้าที่คนต่างฝันถึง แต่ใครจะคิดว่ากว่าที่จะได้เป็น นาวิน ต้าร์ อย่างทุกวันนี้ อีกทั้งยังถือว่าเป็นศิลปินที่อยู่ในวงการมายาวนานจนถึงปัจจุบันด้วยแล้ว หลังม่านแดงของเขานั้นล้มลุกคลุกคลานมาพอสมควร

 

ปัจจุบันนาวิน ต้าร์ได้กลับมาร้องเพลงอีกครั้งหลังห่างหายไปนานหลายปี ทำเอาเหล่าแฟนคลับที่ผ่านวัยรุ่นมาในยุคเดียวกันกับเขารู้สึกเหมือนได้ย้อนวัยอีกครั้ง ด้วยเสียงอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น แม้กระทั่งนักแสดงที่เคยร่วมงานกันก็ยังจดจำเสียงนั้นได้ดี แต่นอกจากความสามารถอันเลื่องชื่อ มุมมองการใช้ชีวิตที่ผ่านมาของเขาก็เป็นอีกหนึ่งด้านที่น่าประทับใจด้วยเหมือนกัน



ด้วยจุดเริ่มต้นที่ไม่ค่อยดีนัก นาวิน ต้าร์ขึ้นชื่อเรื่องความเกเรจนโดนไล่ออกจากโรงเรียนถึงสองครั้ง ดังนั้นมันจึงกลายเป็น Turning Point สำคัญที่ทำให้เขาตั้งมั่นกับตัวเอง พลิกผันเส้นทางชีวิตใหม่กลายมาเป็นเด็กเรียน จนได้ทุนเรียนต่อปริญญาเอกที่สหรัฐอเมริกา



แต่นั่นไม่ใช่จุดที่ประสบความสำเร็จที่สุดของเขา การได้ทุนเพื่อไปเรียนต่อถึงต่างประเทศแทนที่จะได้เป็นด็อกเตอร์ดังที่ตั้งใจเอาไว้ กลับกลายเป็นบาดแผลและสร้างความทุกข์ตรมจนต้องขังตัวเองเอาไว้ในห้องถึง 3 เดือน นาวิน ต้าร์เล่าในรายการ Perspective ว่า ตอนนั้นเครียดมาก เพราะว่าผมเป็นคนที่พลาดไม่ได้ รู้สึกว่ากดดันกับกระแสสังคม เขาก็พูดกันว่าผมไปเรียนไม่เสร็จสักที เรื่องพวกนี้มันทำให้เครียดมาก ๆ เลยปิดตัวเองอยู่ในห้องสามเดือน ไม่ออกมาเจอผู้คน ไม่รับโทรศัพท์ ไม่คุยกับใครทั้งสิ้นเพราะว่ามันรับไม่ได้ ไม่อยากพูดถึงความเป็นจริงที่ต้องมานั่งบอกคนนู้นคนนี้ว่าเรายังเรียนไม่จบ



เวลานั้นเขาทำเพียงมองแสงที่ลอดผ่านไปมาจากประตูเวลาคนเดินผ่าน พร้อมภาวนาว่าอย่าให้มีใครมาเคาะประตูบ้านเพราะตัวเขาไม่อยากพบเจอใคร ทว่าในหลุมดำลึกที่สุดที่เขาตกลงไป กลับมีมือยื่นลงมาเพื่อดึงเขากลับเข้าสู่แสงสว่างอีกครั้ง เพียงคำพูดที่ถามสั้น ๆ ว่า เป็นไง ไปกินข้าวกัน ของคุณพ่อเขา เลยทำให้นาวิน ต้าร์กลับมาตั้งสติใหม่ เขากลับเมืองไทยเพื่อพักฟื้นและตัดสินใจกลับไปที่อเมริกาอีกครั้งเพื่อทำวิทยานิพนธ์ให้จบ จนได้เป็น ดร. นาวิน เยาวพลกุล ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมานั้น เขามองย้อนกลับไปก็ได้แต่คิดว่า เหนื่อยแทบตาย แต่มันทำให้เข้าใจนะ บางทีเราไล่ตามอะไรกันไม่รู้โดยที่มันอาจจะไม่ได้สำคัญอะไรเลย เราต้องการมันมากในตอนที่เรายังไปไม่ถึง แต่พอไปถึงแล้วมันก็แค่นั้นเอง...



บางทีนี่อาจจะเป็นเพียงเส้นชัยจุดแรกของยอดเขาที่เตี้ยที่สุด ซึ่งนาวิน ต้าร์สามารถชิงมันมาได้แล้ว ยังมีอีกหลายเป้าหมายที่อยู่ในใจของเขาและกำลังพยายามไต่ให้สูงขึ้นไปอีก ดังนั้นในความรู้สึกของการได้มีคำนำหน้าว่าด็อกเตอร์สักทีมันเลยเป็นคำที่พูดออกมาแค่ว่า เออ ก็แค่นี้เองนี่หว่า นั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้น แม้จะเป็นเพียงเขาลูกเล็ก ๆ ยังไงก็ต้องใช้ความพยายามให้ถึงที่สุดก่อนแล้วชัยชนะจะกลายเป็นของเรา นาวิน ต้าร์กล่าวปิดท้ายในรายการว่า ผมก็แค่เชื่อในความเพียรพยายาม ถ้าเราพยายามแล้วเนี่ย อย่างน้อยมันก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย



ยอดเขาลูกสุดท้ายแต่กลับไม่ใช่ท้ายที่สุด ชีวิตของนาวิน ต้าร์ จากที่เคยเป็นเด็กเกเร แกล้งเพื่อนอยู่บ่อยครั้งจนโดนไล่ออกจากโรงเรียน พลิกผันเป็นนักเรียนทุนจบด็อกเตอร์ที่ต่างประเทศ ดีกรีอาจารย์มหาวิทยาลัยและยังเป็นนักร้องที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่น ๆ ปัจจุบันนี้ เขาได้หาเส้นชัยใหม่ที่มุ่งมั่นจะไปให้ถึง คือการได้ลงแข่งไตรกีฬา อย่างที่บอกไปตอนต้น นาวิน ต้าร์นั้นเก่งหลายด้านจนอดคิดไม่ได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเคยทำได้แล้ว มันจะมีอะไรที่ไม่สามารถทำได้บ้างรึเปล่า แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านของเขานั่นแหละคือคำตอบ เพราะเขาเป็นคนที่ ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหน หากให้ความสำคัญกับเรื่องอะไร เขาจะทุ่มเทและโฟกัสกับสิ่งนั้นสิ่งเดียวจนเกิดความชำนาญ เมื่อสำเร็จแล้วก็ค่อยไปทำตามเป้าหมายอย่างอื่นต่อ นั่นเอง

ที่มาข้อมูล

รายการ Perspective : นาวิน ต้าร์ | ชีวิตจริง...ยิ่งกว่าละคร

เว็บไซต์ Sanook เปิดประวัติ "นาวิน ต้าร์" จากเด็กเกเร เปลี่ยนตัวเองสู่ อาจารย์ประจำภาควิชา ม. เกษตรศาสตร์, ประวัติ "นาวิน ต้าร์" ศิลปินยุค 90 และไอดอลด้านการศึกษาที่คัมแบ็กจับไมค์รัวๆ

About the author: ฬ. Jula


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy