แชร์

ที่เที่ยวน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ณ น้ำตกบ้านตายาย จังหวัดนครนายก ใกล้กรุงเทพแบบ One Day Trip

อัพเดทล่าสุด: 17 มิ.ย. 2024
223 ผู้เข้าชม

"เอาล่ะ จะไปเที่ยวไหนดี" วันหยุดเวียนมาถึงอีกครั้ง เราเป็นคนไม่ค่อยเที่ยวไกลจากตัวเมืองนักเพราะเวลามีจำกัด นอกจากวันธรรมดาที่ต้องทำงาน 8 ชั่วโมงแล้ว ในวันหยุดเพียง 2 วันต่อสัปดาห์อาจต้องทำงานบ้านต่อ ทริปที่ดึงดูดที่สุดเห็นทีจะเป็นการท่องเที่ยวแบบ One Day Trip เท่านั้น

เราไม่มีภาพในหัวชัดเจนว่าอยากไปเที่ยวที่ไหน เพียงแค่ต้องการชมธรรมชาติเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ โชคดีที่เราสามารถพึ่งพาสื่อโซเชียลได้ สุดท้ายเลยได้ปักหมุดลง น้ำตกบ้านตายาย จังหวัดนครนายก สถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพ ใช้เวลาเดินทางเพียงสองชั่วโมงก็ถึงที่หมายแล้ว

เมื่อเราอยากหลีกหนีจากความวุ่นวายเข้ามาพักใจในพื้นที่เงียบสงบ เวลาการเดินทางประมาณสองชั่วโมง ยามรถแล่นผ่านบ้านเรือนด้านนอกที่มีเพียงกระจกกั้น โทนสีของเมืองที่ดูอึมครึม ความแออัดของถนนหนทางซึ่งมีผู้ร่วมเดินทางในถนนเส้นเดียวกันมากมาย และสารถีที่ต้องคอยเหยียบเบรกจนหน้ายู่ ผ่านไปชั่วพริบตาเดียว ภาพเหล่านั้นได้แปรเปลี่ยนเป็นสีเขียวขจีของต้นไม้ บ้านเรือนผู้คนเริ่มบางตาเมื่อเราพ้นเขตตัวเมือง รอบข้างมีดอกไม้สีเหลืองอร่าม เป็นความสวยงามของดอกสุพรรณิการ์หรือดอกฝ้ายคำ ดอกไม้ประจำจังหวัดนครนายกได้ถูกปลูกเอาไว้เรียงรายเต็มเส้นทางถนนสายรังสิต-นครนายก ประกอบกับป้ายสีน้ำเงิน ยินดีต้อนรับเข้าสู่จังหวัดนครนายก เด่นหรา สร้างความตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก

ราวกับลืมความทุกข์ใจที่หนีจากมาชั่วคราวและมีความสุขกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าอย่างง่ายดายเสียอย่างนั้น

ช่องทางการเดินรถที่เล็กและแคบ เหมาะสำหรับให้รถยนต์ผ่านได้เพียงคันเดียว แม้แต่รถจักรยานยนต์ยังไม่สามารถแทรกขนาบข้างไปได้ จุดหมายอยู่ในซอยเล็ก ๆ ตามป้าย น้ำตกบ้านตา-ยาย ที่มีขนาดเล็ก ไม่ได้ใหญ่หวือหวาขนาดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังและมีคนมาเที่ยวอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง แต่กลับเป็นเพียงน้ำตกที่ไหลผ่านสถานที่ส่วนบุคคล ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงจึงถือเป็นผู้ดูแลและคอยให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาพักใจกับน้ำตกแห่งนี้

กรวดก้อนเล็ก ๆ ตามเส้นทางนี้ต่างเสียดสีกันกับยางรถเป็นเสียงที่ค่อนข้างกังวลใจอยู่หน่อย ๆ ไหนจะรั้วเหล็กหนามและกำแพงปูนทั้งสองข้างใกล้ชิดกับกระจกเสียเหลือเกิน ทว่าการเดินทางได้สิ้นสุดลงโดยรถยนต์เข้าจอดอย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน


ถึงที่หมายแล้ว น้ำตกบ้านตา-ยาย จังหวัดนครนายก


เมื่อก้าวลงจากรถ ภาพที่เห็นตรงหน้าคือบ้านไม้เก่า ๆ ที่มีหยากไย่และฝุ่นเต็มไปหมด ข้างบ้านเรือนเป็นน้ำตกและต้นไม้เขียวขจี เสียงไก่ขันยามบ่ายคล้อยพร้อมกับกลิ่นควันไฟโชยมาตามลมหวนคิดถึงบรรยากาศบ้านของคุณยายที่เชียงรายนัก บริเวณหน้าบ้านมีโต๊ะไม้สำหรับลูกค้าของร้าน ป้ายเมนูติดบนตู้กระจกค่อนข้างเก่ายากจะอ่านได้ง่าย แน่นอนว่าไม่ใช่ร้านอาหารสุดหรูที่ดึงดูดให้เดินเข้าไป แต่ความคุ้นเคยกับบรรยากาศแบบนี้ทำให้รู้สึกเหมือนได้กลับบ้านเก่าเสียอย่างนั้น

เนื่องจากว่าน้ำตกบ้านตายายเป็นเขตพื้นที่ส่วนบุคคล ดังนั้นการดูแลความสะอาดเรื่องขยะและการทิ้งสิ่งปฏิกูลลงน้ำของนักท่องเที่ยวจึงมีแค่ชาวบ้านในพื้นที่เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ เราเดินผ่านบ้านหลังแรกเข้าไปลึกขึ้น เห็นคุณป้าท่านหนึ่งยืนอยู่ตรงบ้านของตนเพื่อเก็บค่าเข้า ข้างกันนั้นมีคุณยายนั่งมองอยู่เงียบ ๆ

ภายหลังจึงได้รู้ว่า ท่านคือที่มาของชื่อสถานที่ท่องเที่ยวนี้นั่นเอง

ค่าเข้าสถานที่จ่ายเพียงคนละ 30 บาทพร้อมกับถุงพลาสติกหนึ่งใบ คุณป้าบอกว่าที่นี่ไม่มีถังขยะ หากจะทิ้งให้ใส่ลงถุงแล้วเอาออกไปทิ้งเอง นับว่าเป็นแนวคิดที่ยอดเยี่ยม การที่เรามาใช้สถานที่ใกล้บ้านเรือน อีกทั้งยังเป็นแหล่งธรรมชาติ เราควรจะช่วยกันดูแลให้สะอาด สวยงามต่อไปแบบนี้แหละ นอกจากที่นี่สามารถลงเล่นน้ำได้ ในซอยข้างกันนั้นมีพื้นที่สำหรับการกางเต็นท์ค้างแรมได้ด้วย

แต่เต็นท์ค้างแรมไม่ใช่เป้าหมายหลักของการมาเที่ยวแบบ One Day Trip เราหันกลับไปมองน้ำตก พลางคิดในที่สุดก็ได้เวลาเปลี่ยนชุดลงเล่นน้ำเสียที


น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ว่ายแหวกปทุมาอยู่ไหว ๆ


รอบข้างมีคนบ้างประปราย เหล่านักท่องเที่ยวที่มาเป็นกลุ่มก่อนหน้าต่างพูดคุยและนั่งดูสายน้ำที่ไหลไปตามเส้นทางของมัน เสียงน้ำกระทบโขดหินพาให้ใจสงบอย่างบอกไม่ถูก ขาก้าวแรกที่สัมผัสน้ำ ความเย็นของมันทำให้ขนลุกชัน หินกลมเรียงสะเปะสะปะตามธรรมชาติที่ถูกกระแสน้ำพัดพาให้หยุดลงที่แห่งนี้ทำให้ต้องค่อย ๆ เหยียบย่ำแบบไม่เต็มฝ่าเท้าเพราะความเจ็บปวดเมื่อต้องเดินบนหินพวกนั้น

ยามแสงอาทิตย์สว่างจ้ามากที่สุดก่อนจะลาลับขอบฟ้าไปคือช่วงเวลาสี่โมงเย็น เมื่อแสงสีส้มทะลุผ่านแมกไม้สะท้อนลงผิวน้ำนั้นดูวาววับราวกับต้องมนต์ หากคิดว่าที่แห่งนี้คือสรวงสวรรค์ เป็นป่าหิมพานต์ในวรรณคดีคงไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงนัก ทั้งต้นไม้ใหญ่แทรกกันขึ้นอย่างแน่นขนัด มีกิ่งไม้และเถาวัลย์ย้อยลงมาพันกันจนกลายเป็นความยุ่งเหยิง แต่ความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้นอย่างไม่ตั้งใจนั้นทำให้การมาเที่ยวในครั้งนี้ถือว่าได้พักผ่อนหย่อนใจตามที่ต้องการ

เมื่อก้มลงมองเท้าตัวเองในน้ำ อุณหภูมิเย็นเฉียบจนตัวหนาวสั่นแต่กลับรู้สึกสนุก ใกล้ ๆ กันนั้นมีปลา 3-4 ตัวว่ายเข้ามาหา บทกวีที่ว่า น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ว่ายแหวกปทุมาอยู่ไหวไหว มันเป็นเช่นนี้เอง

---

About the author: ฬ. Jula


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy