ทำไมกรอบคิดแบบตายตัว บ่งบอกได้ถึงคนที่ไม่ยอมเรียนรู้
- บทความนี้พูดถึงกรอบความคิดสองแบบ คือ กรอบความคิดแบบตายตัว (Fixed Mindset) และกรอบความคิดแบบพัฒนา (Growth Mindset) โดยใช้คำว่า "มากกว่าแค่จิ๊กซอว์" มาอธิบายความหมายในมุมมองของผู้เขียนว่า การพลาดโอกาสในการต่อจิ๊กซอว์ชุดใหม่เป็นเรื่องหนึ่ง แต่การพลาดโอกาสสำคัญที่ส่งผลต่ออนาคตเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
- ด้วยประสบการณ์ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อย ผู้เขียนใช้ตัวอย่างจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง ซึ่งการเรียนการสอน ตำรา และข้อสอบทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ โดยตั้งคำถามกับนักศึกษาปีหนึ่งว่า ถ้ามีการเปิดสอนวิชาภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาทักษะด้านนี้ คุณจะลงเรียนหรือไม่ พร้อมประเมินกรอบความคิดของนักศึกษาด้วยคำถามว่า "คุณมีสติปัญญาระดับหนึ่งและไม่สามารถทำอะไรได้มากนักเพื่อเปลี่ยนแปลงมัน" และ "คุณสามารถเปลี่ยนแปลงระดับสติปัญญาของตัวเองได้อย่างมหาศาล"
-ผลการสอบถามและประเมิน พบว่านักศึกษาที่มีกรอบคิดแบบพัฒนาตอบตกลงอย่างกระตือรือร้นที่จะเรียนวิชาภาษาอังกฤษ และเห็นด้วยกับประโยคที่ว่า "คุณสามารถเปลี่ยนแปลงระดับสติปัญญาของตัวเองได้อย่างมหาศาล" ในขณะที่นักศึกษาที่มีกรอบคิดแบบตายตัวไม่ค่อยให้ความสนใจ และเห็นด้วยกับประโยคที่ว่า "คุณมีสติปัญญาระดับหนึ่งและไม่สามารถทำอะไรได้มากนักเพื่อเปลี่ยนแปลงมัน"
-กรอบความคิดแบบตายตัว (Fixed Mindset) หมายถึง การที่คุณเชื่อว่าคุณสมบัติของตนเองเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เช่น คนที่เรียนเก่งเท่านั้นถึงจะได้ยืนบนโพเดียม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมุมมองด้านเดียว ไม่สามารถมองในมุมต่างว่าคนที่เรียนไม่เก่งแต่มีความสามารถอื่น ๆ เช่น เล่นกีฬา หรือเล่นดนตรีเก่ง ก็สามารถขึ้นไปยืนตรงโพเดียมได้เหมือนกัน
- สรุปว่าในโซเชียลมีเดียมักมีคนตัดพ้อและไม่ชอบหามุมมองใหม่ ๆ เพราะกลัวหน้าแตกหรือเพราะไม่เก่ง ทุกเหตุผลที่ไม่อยากพัฒนาตัวเองนั้นล้วนเป็นกรอบความคิดแบบตายตัว ผู้เขียนต้องการให้คนที่อ่านบทความนี้กล้าที่จะลองผิดเพื่อประสบการณ์ กล้าที่จะถามในสิ่งที่สงสัย และมีมุมมองต่อโลกในแง่ดีขึ้น ทุกปัญหาย่อมมีทางออก ทุกจุดสิ้นสุดย่อมมีจุดเริ่มต้นใหม่ ๆ และผู้เขียนเป็นกำลังใจให้
- บทความนี้จึงเป็นการเน้นย้ำความสำคัญของการมีกรอบความคิดแบบพัฒนา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และเติบโตในทุกๆ ด้านของชีวิต
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
ที่มา : หนังสือ mindset ใช้ความคิดเอาชนะโชคชะตา
About the author : ( น้องจีน )