นับหนึ่งใหม่ที่ไทย กับ "โรคฝีดาษลิง" (MPOX)
ในปี 2024 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระดับนานาชาติสำหรับโรคฝีดาษลิง (MPOX) ซึ่งเป็นโรคที่มีการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะสายพันธุ์ Clade 1 ที่กำลังแพร่ระบาดในขณะนี้ สายพันธุ์นี้ส่งผลให้เกิดอาการรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในเด็ก นอกจากนี้ยังสามารถแพร่เชื้อผ่านการสัมผัสใกล้ชิดหรือในครอบครัวได้ และในปี 2022 ที่ผ่านมา สายพันธุ์ Clade 2 ที่มีความรุนแรงน้อยกว่านั้น มักจะแพร่เชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์
การแพร่เชื้อ
โรคฝีดาษลิงสามารถแพร่เชื้อได้หลากหลายวิธี เช่น การสัมผัสผิวหนังกับผิวหนังที่มีตุ่มหนอง (Rash) จนกระทั่งตุ่มแห้งและหายสนิท การสัมผัสสิ่งของที่ผู้ติดเชื้อสัมผัส เช่น เสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน หรือผ้าเช็ดตัว การหายใจเอาละอองฝอยจากการไอหรือจามเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ การมีเพศสัมพันธ์ และการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ทารกในครรภ์
อาการ
โรคฝีดาษลิงมีระยะฟักตัวค่อนข้างยาว โดยทั่วไปจะไม่มีอาการในช่วง 5 ถึง 13 วัน แต่สามารถนานถึง 21 วันหลังจากสัมผัสเชื้อได้ หลังจากนั้นจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่เป็นเวลา 1 ถึง 5 วัน เช่น มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดหัว อ่อนเพลีย ปวดหลัง และต่อมน้ำเหลืองบวม ต่อมาจะเกิดผื่นตุ่มน้ำพองที่กลายเป็นแผลตุ่มหนองและตกสะเก็ด อาการนี้จะอยู่ได้นาน 2 ถึง 4 สัปดาห์
ลักษณะของผื่น
ผื่นของโรคฝีดาษลิงเริ่มต้นจากตุ่มคล้ายสิวหรือก้อนแข็ง ก่อนจะกลายเป็นตุ่มน้ำพองและต่อมาค่อยๆ กลายเป็นแผลตุ่มหนองที่ตกสะเก็ด ผู้ป่วยจะไม่สามารถแพร่เชื้อได้อีกต่อไปหลังจากที่แผลเหล่านี้หายสนิท ผื่นอาจขึ้นที่ฝ่ามือและฝ่าเท้าได้
การรักษา
โดยทั่วไป โรคฝีดาษลิงมีความรุนแรงน้อย และผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายเองภายใน 2 ถึง 4 สัปดาห์ โดยไม่ต้องการการรักษาใดๆ นอกจากการพักผ่อนและยาลดไข้ อย่างไรก็ตาม ควรปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน เช่น การกักตัว การสวมหน้ากาก การระบายอากาศ และการล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ผู้ที่ทำความสะอาดเสื้อผ้าหรือผ้าปูที่นอนควรสวมถุงมือและหน้ากากอนามัย เนื่องจากการสั่นสะเทือนของผ้าอาจทำให้เชื้อแพร่กระจายในอากาศได้
วัคซีน
วัคซีนป้องกันฝีดาษ (Smallpox vaccine) มีประสิทธิภาพป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ถึง 85% หากได้รับภายใน 3 วันหลังจากการสัมผัสเชื้อ วัคซีนป้องกันฝีดาษที่ได้รับในอดีตยังคงมีประสิทธิภาพบางส่วนในการป้องกันโรครุนแรง แต่ไม่ได้ให้การป้องกันที่ยาวนานในการติดเชื้อหรือการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น
โรคฝีดาษลิงเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้หากปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันและรักษาอย่างเหมาะสม ความรู้และความเข้าใจในโรคนี้จะช่วยลดการแพร่ระบาดและรักษาสุขภาพของทุกคนในสังคม
ข้อมูลในบทความข้างต้นอ้างอิงจากเอกสารที่ผู้ใช้ได้อัปโหลด ซึ่งเป็นอินโฟกราฟิกโดย Dr. Ruth Ann Crystal MD ในหัวข้อ "MPOX 2024" โดยมีการอ้างอิงข้อมูลจาก UK Health Security Agency และแหล่งข้อมูลออนไลน์ที่เกี่ยวข้อง เช่น NCBI.