ฝนตกทีไร ก็เปียกปอนทุกที ใจเรามันชอบเศร้าหรือเหงา หรือบางทีก็รู้สึกสงบซะอย่างนั้น
ฝนตกมักจะนำพาเราสู่ห้วงอารมณ์ที่ยากจะอธิบาย บางครั้งมันทำให้เราได้สัมผัสกับความเงียบสงบที่หาไม่ได้จากวันธรรมดา เสียงฝนกระทบหลังคาหรือหน้าต่าง คล้ายกับเสียงเพลงที่ธรรมชาติบรรเลงเพื่อปลอบประโลมใจเรา เสียงที่ซ้ำไปซ้ำมาเหมือนเป็นสัญญาณให้เราหยุดและฟัง ไม่ใช่เพียงแค่ฟังเสียงจากภายนอก แต่ยังให้เราฟังเสียงจากภายในจิตใจของตัวเอง ฝนเหมือนเป็นผู้บำบัดทางจิตใจที่คอยปลอบใจเราในวันที่ความกดดันและความเหนื่อยล้ารุมเร้า ให้เราได้พักผ่อนในความเงียบสงบและปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างอ่อนโยน
แต่บางครั้ง ฝนก็ทำให้เราได้สัมผัสกับความเศร้าที่มาพร้อมกับท้องฟ้าครึ้ม เมฆดำหนาที่บดบังแสงอาทิตย์เหมือนจะเพิ่มความหนักหน่วงให้กับใจเรา ความมืดมิดนี้ทำให้เรารู้สึกเหมือนถูกปิดกั้นจากโลกภายนอก และทิ้งเราไว้กับความเหงาและความคิดที่ไม่เคยเปิดเผย ฝนเป็นเหมือนผ้าห่มที่ปกคลุมโลกด้วยความเศร้า ทำให้เราหวนคิดถึงเรื่องราวที่อาจถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง แสงที่ลดลงทำให้เรารู้สึกถึงความอ่อนล้าที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ทำให้เรารู้สึกต้องการพักผ่อน แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เรารู้สึกถึงความหนักอึ้งในใจที่ยากจะสลัดออก
ฝนเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่เพียงแค่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังส่งผลต่ออารมณ์และจิตใจของมนุษย์อย่างลึกซึ้ง ในมุมมองทางจิตวิทยา เสียงฝนที่กระทบหลังคาหรือหน้าต่างมีคุณสมบัติที่เรียกว่า white noise ซึ่งเป็นเสียงรบกวนที่มีความสม่ำเสมอ ช่วยบรรเทาความตึงเครียดและสร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้กับจิตใจ เสียงฝนนี้คล้ายกับเสียงที่เราได้ยินตั้งแต่ในครรภ์มารดา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เรารู้สึกปลอดภัยและสงบ ทำให้เมื่อเราได้ยินเสียงฝน จิตใต้สำนึกของเราก็จะตอบสนองด้วยการทำให้เรารู้สึกสงบและสบายใจมากขึ้น เป็นเหมือนการหวนคืนสู่ความปลอดภัยที่เราคุ้นเคยตั้งแต่วัยแรกเริ่ม
เมื่อท้องฟ้ามืดครึ้มและเมฆดำปกคลุม การที่ระดับแสงธรรมชาติลดลงมีผลโดยตรงต่อการหลั่งสารเคมีในสมองโดยเฉพาะเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารที่เกี่ยวข้องกับความสุขและความพึงพอใจ การลดลงของเซโรโทนินในสภาวะแสงน้อยสามารถนำไปสู่ความรู้สึกซึมเศร้า เหงา หรือเศร้า ซึ่งในทางจิตวิทยาเรียกว่า Seasonal Affective Disorder (SAD) หรืออาการซึมเศร้าในช่วงฤดูกาลที่มีแสงน้อย นอกจากนี้ ฮอร์โมนเมลาโทนินที่ช่วยในการนอนหลับยังมีการผลิตมากขึ้นในสภาวะที่แสงน้อย ทำให้เรารู้สึกง่วงนอนและอ่อนล้ามากกว่าปกติ การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพเหล่านี้มีผลทำให้เรารู้สึกถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศ
ฝนยังมีความสามารถในการกระตุ้นความทรงจำและอารมณ์ลึกๆ ที่ถูกฝังไว้มานาน เสียงฝนที่โปรยปรายอาจทำให้เรานึกถึงช่วงเวลาที่เคยสัมผัสกับเหตุการณ์สำคัญในชีวิต เช่น ความรักครั้งแรก การสูญเสีย หรือความสุขในวัยเด็ก จิตวิทยาเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า Mood Congruent Memory ซึ่งหมายถึงการที่อารมณ์ในปัจจุบันสามารถกระตุ้นให้เรานึกถึงเหตุการณ์หรือความทรงจำที่มีอารมณ์คล้ายกันในอดีต เมื่อเรารู้สึกเหงาหรือเศร้าจากฝน ความทรงจำที่มีอารมณ์คล้ายกันก็จะถูกนำกลับมาผุดขึ้นในใจ ทำให้เรารู้สึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างอารมณ์ปัจจุบันและอดีตได้อย่างชัดเจน
เมื่อฝนตกลงมา มันไม่เพียงแต่เป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกจากผิวดิน แต่ยังเป็นการชำระล้างจิตใจของเรา ให้เราพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับชีวิตที่ท้าทายมากขึ้น ฝนเป็นเหมือนการเริ่มต้นใหม่ ทุกหยดฝนที่ตกลงมาเหมือนเป็นการปลดปล่อยความหนักอึ้งในใจ ทำให้เรารู้สึกเบาสบายและพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยพลังที่สดใสยิ่งขึ้น
ฝนที่หนักก็เหมือนกับความเศร้าโศก แต่เมื่อฝนหยุดตกก็จะนำมาซึ่งความสดชื่น
---
ที่มา : วิจัยเผย! ทำไมฝนตกทำให้คนเหงา หรือแค่เพราะเราอยากมีใคร จาก wongnai.com , ทำไมเราเหงาเวลาฝนตก จาก a-chieve
About the author : ภูมิมาลัย