จัดการกับ Procrastination อย่างไรให้ได้ผล
การผัดวันประกันพรุ่งหรือ Procrastination เป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนพบเจอ โดยเฉพาะนักเรียนและนักศึกษา ซึ่งอาจส่งผลต่อการเรียนและประสิทธิภาพในการทำงาน การจัดการกับ Procrastination จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้น้องสามารถเรียนและทำงานได้อย่างเต็มที่ บทความนี้พี่จะแนะนำเทคนิคต่าง ๆ ที่จะช่วยให้น้องเอาชนะการผัดวันประกันพรุ่งและจัดการเวลาได้ดียิ่งขึ้น
1. เริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ
การตั้งเป้าหมายที่ใหญ่เกินไปอาจทำให้น้องรู้สึกท้อแท้และไม่อยากเริ่มต้น น้องควรเริ่มต้นด้วยการ ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ที่สามารถทำได้ในระยะเวลาสั้น เช่น อ่านหนังสือสัก 15 นาที หรือเริ่มต้นทำงานสักเล็กน้อย เมื่อน้องทำเป้าหมายเล็ก ๆ สำเร็จ จะช่วยให้น้องมีแรงจูงใจในการทำงานต่อไป
เคล็ดลับ: ลองตั้งเป้าหมายรายวันที่สามารถทำได้ เช่น "อ่านหนังสือ 10 หน้า" หรือ "ทำโจทย์เลข 5 ข้อ" การแบ่งเป้าหมายเป็นส่วนเล็ก ๆ ช่วยให้น้องรู้สึกว่าการทำงานไม่ยากเกินไป
2. ใช้เทคนิค Pomodoro
เทคนิค Pomodoro เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการจัดการเวลา โดยให้ทำงาน 25 นาทีแล้วพัก 5 นาที การทำงานเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แบบนี้ช่วยให้น้องสามารถโฟกัสกับงานได้เต็มที่โดยไม่รู้สึกเหนื่อยหรือเบื่อ นอกจากนี้ การแบ่งเวลาทำงานและพักเป็นช่วง ๆ ยังช่วยป้องกันการผัดวันประกันพรุ่งได้อีกด้วย
เคล็ดลับ: ใช้แอปพลิเคชัน Pomodoro หรือจับเวลาด้วยนาฬิกาธรรมดา เมื่อครบ 25 นาที ให้พักสมองสัก 5 นาที ทำอะไรสบาย ๆ เช่น ยืดเส้นยืดสายหรือดื่มน้ำ
3. จัดลำดับความสำคัญของงาน
การจัดลำดับความสำคัญเป็นสิ่งสำคัญในการเอาชนะ Procrastination น้องควร จัดลำดับความสำคัญของงาน โดยใช้วิธี Eisenhower Matrix ซึ่งแบ่งงานออกเป็น 4 กลุ่มตามความเร่งด่วนและความสำคัญ วิธีนี้จะช่วยให้น้องรู้ว่าควรทำงานอะไรเป็นลำดับแรก
ตัวอย่าง: หากมีงานที่ต้องส่งภายในวันพรุ่งนี้ น้องควรจัดลำดับให้เป็นงานที่เร่งด่วนและสำคัญ ในขณะที่งานที่ไม่เร่งด่วนแต่สำคัญ อาจเป็นการเตรียมตัวสอบในอีก 2 สัปดาห์
4. กำจัดสิ่งรบกวน
การมีสิ่งรบกวนรอบตัว เช่น โทรศัพท์ หรือโซเชียลมีเดีย ทำให้น้องเสียเวลาไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อต้องการทำงานหรือตั้งใจอ่านหนังสือ น้องควร ปิดโทรศัพท์ หรือปิดการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกดึงความสนใจไปจากงานที่ทำอยู่
เคล็ดลับ: ลองกำหนดเวลาสำหรับการเล่นโซเชียล เช่น หลังทำงานครบ 25 นาทีแล้วพักใช้โซเชียลได้ 5 นาที แต่ควรตั้งขอบเขตไม่ให้เกินเวลาที่กำหนด
5. ให้รางวัลตัวเองเมื่อทำสำเร็จ
การให้ รางวัลตัวเอง เมื่อทำงานสำเร็จเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยสร้างแรงจูงใจ น้องสามารถกำหนดรางวัลเล็ก ๆ เช่น การดูหนัง ฟังเพลง หรือออกไปทำกิจกรรมสนุก ๆ เมื่อทำงานหรืออ่านหนังสือเสร็จตามเป้าหมาย
ตัวอย่าง: เมื่อน้องทำงานที่ยากสำเร็จ เช่น เขียนรายงานเสร็จ น้องสามารถให้รางวัลตัวเองด้วยการดูซีรีส์เรื่องโปรด หรือไปทานขนมที่ชอบ
6. สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้น้องสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ น้องควรจัดโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบ ปลอดจากสิ่งรบกวน และมีอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทำงาน เช่น หนังสือ หรือเครื่องเขียน เพื่อช่วยให้ทำงานได้อย่างราบรื่น
เคล็ดลับ: ลองจัดโต๊ะทำงานใหม่ให้โปร่ง โล่ง และสะอาด อาจวางของตกแต่งเล็ก ๆ ที่ช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจ เช่น ปฏิทินเป้าหมาย หรือรูปภาพที่ชอบ
การเอาชนะ Procrastination ไม่ใช่เรื่องยากหากน้องมีเทคนิคที่เหมาะสม น้องสามารถเริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ใช้เทคนิค Pomodoro จัดลำดับความสำคัญของงาน และกำจัดสิ่งรบกวน เมื่อทำสำเร็จ อย่าลืมให้รางวัลตัวเองเพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงานต่อไป