เคล็ดลับตั้งเป้าหมายด้วยเทคนิค SMART Goals
การตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้นักเรียนหรือคนที่กำลังพัฒนาตนเองประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในการตั้งเป้าหมายคือ SMART Goals ซึ่งเป็นวิธีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและสามารถปฏิบัติได้จริง มาดูเคล็ดลับในการตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ด้วยเทคนิคนี้กันครับ
1. Specific (เฉพาะเจาะจง)
เริ่มจากการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง เป้าหมายที่ชัดจะช่วยให้คุณรู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง เช่น แทนที่จะตั้งเป้าหมายว่า "อยากได้เกรดดีขึ้น" คุณควรเปลี่ยนเป็น "อยากได้เกรดเฉลี่ย 3.5 ในวิชาคณิตศาสตร์"
2. Measurable (วัดผลได้)
การตั้งเป้าหมายควรวัดผลได้ เพื่อให้คุณรู้ว่าใกล้จะถึงเป้าหมายแล้วหรือไม่ เช่น หากคุณตั้งเป้าว่าจะทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ 10 ข้อในหนึ่งสัปดาห์ คุณสามารถตรวจสอบความคืบหน้าได้โดยการนับจำนวนข้อที่ทำเสร็จแล้ว
3. Achievable (เป็นไปได้จริง)
เป้าหมายที่ตั้งควรเป็นไปได้จริง อย่าตั้งเป้าหมายที่ใหญ่เกินไปจนทำให้รู้สึกท้อแท้ ตัวอย่างเช่น แทนที่จะตั้งเป้าหมายว่า "อยากได้เกรด A ในทุกวิชา" ลองเปลี่ยนเป็น "อยากได้เกรด A ใน 2 วิชาในภาคการศึกษานี้"
4. Relevant (เกี่ยวข้อง)
เป้าหมายที่ตั้งควรเกี่ยวข้องกับความต้องการและความสำคัญของชีวิตคุณ เช่น หากคุณต้องการเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ คุณอาจตั้งเป้าหมายในการพัฒนาทักษะทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เป็นหลัก
5. Time-bound (มีกรอบเวลา)
การกำหนดกรอบเวลาในการบรรลุเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ การมีเวลาที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณรู้ว่าต้องทำอะไรเมื่อไร เช่น คุณอาจตั้งเป้าว่าจะเพิ่มเกรดเฉลี่ยใน 1 ภาคการศึกษา หรือทำแบบฝึกหัดวันละ 1 ชั่วโมงเป็นเวลา 2 เดือน
ตัวอย่างการตั้งเป้าหมายแบบ SMART:
"ฉันต้องการเพิ่มคะแนนในวิชาคณิตศาสตร์จาก 75% เป็น 85% ภายในสิ้นภาคการศึกษานี้ โดยจะอ่านหนังสือคณิตศาสตร์ทุกวันวันละ 1 ชั่วโมงและทำแบบฝึกหัดทุกสัปดาห์"
การตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ด้วยเทคนิค SMART Goals จะช่วยให้เป้าหมายของคุณชัดเจน วัดผลได้ และมีความเป็นไปได้มากขึ้น ที่สำคัญคือช่วยให้คุณวางแผนการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถติดตามผลได้ในระยะยาว