แชร์

วิธีสนุก ๆ ฝึกฟังภาษาอังกฤษให้คล่องแบบชิล ๆ

อัพเดทล่าสุด: 13 พ.ย. 2024
115 ผู้เข้าชม

สวัสดีครับน้อง ๆ ที่กำลังมุ่งมั่นพัฒนาภาษาอังกฤษกันอยู่! การฟังภาษาอังกฤษเป็นทักษะที่สำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยให้เราเข้าใจคำศัพท์และโครงสร้างประโยคได้มากขึ้นแล้ว ยังทำให้เราเก่งขึ้นในด้านการพูดและสำเนียงอีกด้วย วันนี้พี่จะมาแนะนำวิธีการฝึกทักษะการฟังภาษาอังกฤษที่ง่ายและสนุก เหมาะกับวัยรุ่นอย่างเรา ๆ ใครที่อยากฟังภาษาอังกฤษให้เก่งขึ้น อ่านต่อได้เลยครับ!

1.เริ่มต้นฟังจากสิ่งที่ชอบและสนใจ
การฝึกทักษะการฟังจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นหากเราเริ่มจากสิ่งที่เราสนใจ เช่น ถ้าน้อง ๆ ชอบฟังเพลง การเลือกฟังเพลงภาษาอังกฤษและพยายามฟังเนื้อร้องให้เข้าใจจะช่วยให้เราคุ้นเคยกับการออกเสียงและสำเนียงของคำศัพท์ นอกจากนี้ยังสามารถลองอ่านเนื้อเพลงพร้อมฟังไปด้วยเพื่อเข้าใจความหมายของคำและประโยคต่าง ๆ

แนะนำ: เริ่มจากเพลงที่มีจังหวะช้าและฟังง่าย เช่น เพลงป๊อปหรือเพลงอะคูสติก และค่อย ๆ ขยับไปฟังเพลงที่มีจังหวะเร็วขึ้นเมื่อรู้สึกมั่นใจขึ้น


2.ฟังพอดแคสต์ภาษาอังกฤษที่สนุกและฟังง่าย
พอดแคสต์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีมากสำหรับการฝึกฟังภาษาอังกฤษ เพราะมีหัวข้อที่หลากหลายให้เลือกฟัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนัง, เพลง, การท่องเที่ยว, การพัฒนาตัวเอง หรือการเรียนรู้ภาษา เลือกพอดแคสต์ที่มีความยาวไม่เกิน 10-15 นาทีในตอนแรก เพื่อไม่ให้เหนื่อยเกินไป จากนั้นสามารถเพิ่มระยะเวลาในการฟังได้เรื่อย ๆ

พอดแคสต์ภาษาอังกฤษที่แนะนำ:

ESL Pod: พอดแคสต์สำหรับการเรียนภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ เนื้อหาฟังง่ายและออกเสียงชัดเจน

6 Minute English จาก BBC: มีเนื้อหาที่สั้นและเข้าใจง่าย เน้นคำศัพท์สำคัญในแต่ละตอน เหมาะสำหรับฝึกฟังให้คุ้นเคยกับสำเนียงอังกฤษ

The English We Speak จาก BBC: สอนสำนวนและคำศัพท์ที่ใช้กันในชีวิตประจำวัน เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่อยากเรียนรู้วลีใหม่ ๆ

แนะนำ: ฟังซ้ำ ๆ ในตอนแรกจะช่วยให้เราเข้าใจโครงสร้างประโยคและคำศัพท์ได้มากขึ้น อย่าเพิ่งรีบข้ามไปฟังตอนใหม่ถ้ายังไม่เข้าใจเรื่องที่ฟัง


3.ฝึกฟังด้วยการดูซีรีส์และหนังพร้อมซับภาษาอังกฤษ
การดูซีรีส์หรือหนังเป็นวิธีที่สนุกและเพลิดเพลินมากในการฝึกทักษะการฟัง น้อง ๆ สามารถเปิดซับไตเติลภาษาอังกฤษไว้เพื่อช่วยให้เข้าใจบทสนทนาได้ง่ายขึ้น การดูซีรีส์ช่วยให้เราได้ยินสำเนียงการพูดที่เป็นธรรมชาติและการใช้คำศัพท์ในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น บทสนทนาของวัยรุ่น การใช้คำศัพท์ในที่ทำงาน หรือการสนทนาในชีวิตประจำวัน

แนะนำ: ลองเลือกซีรีส์หรือหนังที่เป็นแนวคอมเมดี้หรือโรแมนติกคอเมดี้ เช่น Friends, The Office, หรือ Brooklyn Nine-Nine ซึ่งเป็นแนวที่ดูสนุกและเข้าใจง่าย

เทคนิค: ลองดูซ้ำตอนเดิมในหลายครั้ง โดยครั้งแรกเปิดซับภาษาไทย ครั้งที่สองเปิดซับภาษาอังกฤษ และครั้งสุดท้ายดูโดยไม่เปิดซับใด ๆ จะช่วยให้เราคุ้นเคยกับการฟังและเพิ่มความเข้าใจในเนื้อหาได้

4.ใช้แอปพลิเคชันฝึกการฟังภาษาอังกฤษ
แอปพลิเคชันฝึกภาษาเป็นเครื่องมือที่ดีในการฝึกทักษะการฟังภาษาอังกฤษ หลาย ๆ แอปพลิเคชันมีบทเรียนการฟังที่น่าสนใจ และยังช่วยเสริมทักษะด้านอื่น ๆ อย่างการพูดและการออกเสียงไปพร้อมกัน แอปพลิเคชันบางแอปสามารถปรับระดับความยากง่ายได้ ช่วยให้เราพัฒนาทักษะได้ทีละขั้นตามความเหมาะสม

แอปที่แนะนำ:

  • Duolingo: แอปยอดนิยมสำหรับการเรียนภาษาอังกฤษ มีทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียน มีแบบฝึกหัดที่สนุกและหลากหลาย
  • Beelinguapp: เป็นแอปที่มีเนื้อหาเรื่องราวให้อ่านและฟังไปพร้อม ๆ กัน สามารถเลือกเนื้อหาตามระดับความยากง่ายได้
  • ELSA Speak: แอปที่เน้นการฝึกพูดและการฟังเพื่อปรับปรุงสำเนียงให้ดีขึ้น โดยสามารถช่วยฝึกทักษะการออกเสียงและการฟังได้เป็นอย่างดี

แนะนำ: ลองใช้เวลาเพียงวันละ 10-15 นาทีกับแอปเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยพัฒนาทักษะได้อย่างเห็นผล


5.ฝึกฟังผ่านการอ่านออกเสียงตาม (Shadowing Technique)
วิธี Shadowing เป็นเทคนิคที่นักเรียนภาษาหลายคนใช้ในการฝึกฟังและพูดภาษาอังกฤษให้คล่องตัวขึ้น เทคนิคนี้เป็นการฟังเสียงและพูดตามทันที โดยไม่ต้องสนใจว่าตัวเองออกเสียงถูกต้องหรือไม่ การอ่านออกเสียงตามจะช่วยให้เราคุ้นเคยกับโทนเสียง จังหวะการพูด และสำเนียงที่ถูกต้อง และยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการฟังและพูดอีกด้วย

ขั้นตอนการฝึก Shadowing:

  1. เลือกคลิปวิดีโอสั้น ๆ หรือบทสนทนาจากพอดแคสต์ที่ฟังเข้าใจได้
  2. กดเล่นคลิปและฟังพร้อมพูดตามทันที โดยไม่ต้องหยุดคลิป
  3. ทำซ้ำ ๆ หลายครั้งจนกว่าจะคล่อง

แนะนำ: เลือกคลิปที่ใช้ภาษาอังกฤษง่าย ๆ ก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มความยากขึ้นตามความสามารถที่พัฒนาขึ้น

6.ตั้งเป้าหมายในการฟังและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
การตั้งเป้าหมายเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้เราพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ ลองตั้งเป้าว่าจะฝึกฟังภาษาอังกฤษอย่างน้อยวันละ 15 นาที เช่น ฟังพอดแคสต์ ฟังเพลง หรือดูซีรีส์วันละตอน การฝึกฟังเป็นประจำจะช่วยให้เราพัฒนาความเข้าใจได้เร็วขึ้น

เทคนิคการตั้งเป้าหมาย:

  • ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ เช่น ฟังพอดแคสต์ 5 นาทีทุกวัน แล้วเพิ่มเวลาเมื่อเริ่มรู้สึกคุ้นเคย
  • ท้าทายตัวเองด้วยการฟังหัวข้อที่ไม่คุ้นเคย เพื่อให้ได้เรียนรู้คำศัพท์และสำเนียงใหม่ ๆ

แนะนำ: หากน้อง ๆ ฝึกฟังภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จะพบว่าการฟังไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดเลย!


7.ฝึกฟังกับเพื่อน หรือหาคนสนทนาที่ใช้ภาษาอังกฤษ
การมีเพื่อนที่อยากฝึกภาษาอังกฤษเหมือนกันช่วยเพิ่มความสนุกในการฝึกฟัง น้อง ๆ สามารถหาคลิปวิดีโอหรือพอดแคสต์ที่น่าสนใจมาแบ่งกันฟัง จากนั้นลองพูดคุยหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเป็นภาษาอังกฤษ วิธีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาการฟัง แต่ยังช่วยให้เกิดความมั่นใจในการสื่อสารภาษาอังกฤษได้อีกด้วย

แนะนำ: ลองหากลุ่มเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่น้อง ๆ สามารถเข้าร่วม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและฝึกฟังไปพร้อมกับคนอื่น

การฝึกทักษะการฟังภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยากหากเราใช้วิธีที่สนุกและน่าสนใจ การเริ่มต้นจากสิ่งที่เราชอบเช่น ฟังเพลง ดูหนัง ฟังพอดแคสต์ หรือใช้แอปพลิเคชันฝึกภาษา จะทำให้เรามีแรงจูงใจในการฝึกฟังอย่างต่อเนื่อง ขอเพียงแค่พยายามฝึกฝนทุกวัน ไม่ต้องเร่งรีบ น้อง ๆ ก็จะเก่งขึ้นแน่นอน!

การฟังเป็นทักษะที่สามารถฝึกได้ ขอเพียงแค่เราให้เวลากับมัน

#: #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #พัฒนาทักษะการฟัง #ภาษาอังกฤษง่ายๆ #พอดแคสต์ฝึกภาษา #เรียนภาษาอังกฤษ


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy