แชร์

กฎหมายสมรสเท่าเทียม ก้าวแรกของการเท่ากันทางเพศ

อัพเดทล่าสุด: 14 ม.ค. 2025
15 ผู้เข้าชม

ในวันที่ 23 มกราคม 2568 ประกาศให้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนและเป็นประเทศที่ 3 ในเอเชียที่มีการใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม รับรองการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน

 

โดยที่ผ่านมาประเทศไทยของเรามีการรณรงค์เรื่องกฎหมายสมรสเท่าเทียมกันมาอย่างยาวนาน เพื่อประโยชน์แก่กลุ่มคนรักร่วมเพศหรือ LGBTQ+ ที่ถึงแม้จะมีการใช้พรบ.คู่ชีวิต แต่ตามจริงแล้วกฎหมายก็ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้คนกลุ่มนี้ตามความจริง เพราะหากไม่ใช่คู่สามีภรรยาที่จดทะเบียนกันอย่างถูกต้อง ก็ไม่สามารถใช้สิทธิสวัสดิการรัฐ การได้รับมรดกรวมถึงการตัดสินใจแทนในการแพทย์ได้ 

 

ทำให้หลาย ๆ คู่ต้องลำบากและเจอกับความไม่เป็นธรรมจากกฎหมาย ยกตัวอย่าง หนังเรื่อง วิมานหนาม ที่นำประเด็นเรื่องการไม่ได้รับมรดกและการใช้สิทธิแสดงตนแทนทางการแพทย์ไม่ได้มาเล่น เพื่อแสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นธรรมของกฎหมายและสมรสเท่าเทียมจำเป็นกับคนรักร่วมเพศขนาดไหน ถึงแม้จะเป็นแค่หนังแต่ใครหลายคู่ก็คงเคยประสบปัญหาแบบนี้เช่นเดียวกัน

 

สิทธิที่ได้จากกฎหมายสมรสเท่าเทียม

  • บุคคลทุกเพศสามารถจดทะเบียนสมรสกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
  • มีการแก้กฎหมายเปลี่ยนคำว่า ชาย-หญิง เป็น คู่สมรส และเปลี่ยนคำว่า บิดา-มารดา เป็น บุพการี 
  • สิทธิในการตัดสินใจแทนทางการแพทย์
  • สิทธิในการรับบุตรบุญธรรมร่วมกันได้
  • สิทธิประโยชน์และสวัสดิการแห่งรัฐในฐานะคู่สมรส
  • สิทธิในการจัดการทรัพย์สินร่วมกัน รวมถึงการรับมรดกจากคู่สมรสหากอีกฝ่ายเสียชีวิต
  • ไม่จำกัดว่าฝ่ายชายต้องเป็นคนให้ของหมั้นและสินสอดฝ่ายเดียว

 

คุณสมบัติของผู้จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม

  • บุคคลทั้งสองจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ กรณีผู้เยาว์ต้องนำบิดามารดาหรือผู้ปกครองมาให้ความยินยอมด้วย
  • กรณีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องได้รับอนุญาตจากศาล
  • ไม่เป็นคนวิกลจริต หรือไร้ความสามารถ
  • ไม่เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดา หรือร่วมแต่บิดามารดา
  • ไม่เป็นคู่สมรสของบุคคลอื่น
  • ผู้รับบุตรบุญธรรมจะสมรสกับบุตรบุญธรรมไม่ได้
  • หญิงที่ชายผู้เป็นคู่สมรสตาย หรือการสมรสสิ้นสุดลงด้วยประการอื่น จะสมรสใหม่ได้ต่อเมื่อสิ้นสุดการสมรสไปแล้วไม่น้อยกว่า 310 วัน เว้นแต่
    • คลอดบุตรแล้วในระหว่างนั้น
    • ศาลมีคำสั่งให้สมรสได้
    • สมรสกับคู่สมรสเดิม
    • บุคคลที่มีอายุไม่ครบ 18 ปีบริบูรณ์ ศาลอาจอนุญาตให้สมรสได้
    • มีใบรับรองแพทย์ว่าไม่ได้ตั้งครรภ์

 

เอกสารที่ต้องเตรียม

  • บัตรประจำตัวประชนหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้
  • สำเนาหนังสือเดินทางกรณีชาวต่างประเทศ
  • หนังสือรับรองสถานภาพบุคคลจากสถานทูตหรือสถานกงสุลหรือองค์การของรัฐบาลประเทศนั้น มอบหมาย พร้อมแปล(กรณีชาวต่างประเทศขอจดทะเบียนสมรส)
  • สำเนาทะเบียนบ้าน

 

สถานที่จดทะเบียนสมรส

  • สำนักงานเขต (ในกรุงเทพฯ)
  • ที่ว่าการอำเภอ (ต่างจังหวัด)
  • สถานกงสุลไทยในต่างประเทศ

 

ค่าใช้จ่าย

  • การจดทะเบียนสมรส ณ สำนักทะเบียนที่จดไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
  • การจดทะเบียนสมรสนอกสำนักทะเบียน ต้องเสียค่าธรรมเนียม 200 บาท

 

ดังนั้นการมีสมรสเท่าเทียมก็เหมือนเป็นการสร้างความเท่ากันให้แก่คนทุกเพศ ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ชายกับหญิงอีกต่อไป แต่มีการเข้าใจและยอมรับกลุ่ม LGBTQ+ มากขึ้น ถือเป็นก้าวแรกของประเทศไทย ที่มีการเปลี่ยนกฎหมายเดิมเพื่อเตรียมเข้าสู่ยุคสมัยใหม่แห่งความเท่าเทียมกันเพื่อให้ผู้คนทุกเพศ ทุกความหลากหลาย สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข

 

 

อ้างอิง :

บทความเหตุใดประเทศไทยจึงเป็นมิตรกับผู้มีความหลากหลายทางเพศ มากกว่าชาติอื่นในเอเชีย ?

บทความสมรสเท่าเทียมผ่านแล้ว ทุกคนทุกเพศ LGBTQIA+ จะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง

บทความเตรียมตัวอย่างไรก่อน จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม 22 ม.ค. 2568

 

About the author : KKwnc








บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy