7 วิชาที่ต้องใช้ แต่เด็กไทยไม่เคยเรียน
หลายครั้งเราได้ยินคำถามที่ว่า "ทำไมเรียนจบแล้วแต่ยังไม่พร้อมสำหรับชีวิตจริง?" นั่นเพราะหลายทักษะที่จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงานเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ กลับไม่ได้รับการสอนในโรงเรียน แม้ว่าระบบการศึกษาจะเน้นไปที่ความรู้ด้านวิชาการ แต่วิชาสำคัญที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตจริง ๆ กลับถูกละเลยไป นี่คือวิชาที่เด็กไทยควรรู้ แต่โรงเรียนไม่มีสอน ที่หากเรียนรู้จะช่วยให้ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ง่ายขึ้นมาก
1. การจัดการเงินส่วนบุคคล
การจัดการเงินเป็นสิ่งที่สำคัญมากในชีวิตประจำวัน แต่กลับไม่ค่อยมีโรงเรียนไหนสอนเรื่องนี้อย่างจริงจัง การรู้วิธีการบริหารเงิน การวางแผนการเงิน การออม และการลงทุนเป็นสิ่งที่เด็กไทยควรรู้ เพราะเมื่อเริ่มต้นทำงานแล้ว เงินเดือนที่ได้รับอาจหมดไปอย่างรวดเร็วหากไม่มีการวางแผนที่ดี จากการวิจัยของธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีการออมเงินเพียงพอสำหรับการเกษียณ ทำให้เกิดปัญหาการเงินในระยะยาว ดังนั้น การเรียนรู้วิธีจัดการเงินตั้งแต่อายุน้อย ๆ จะช่วยให้มีการวางแผนการเงินที่มั่นคงขึ้นในอนาคต
สิ่งที่ควรรู้:
การสร้างงบประมาณ: การรู้ว่าแต่ละเดือนใช้เงินกับอะไรบ้าง และการกันเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับออม
การออมและการลงทุน: รู้จักวิธีการออมที่เหมาะสม เช่น การฝากเงินประจำ หรือการลงทุนในกองทุนรวม
การใช้บัตรเครดิตอย่างรับผิดชอบ: วิธีการใช้บัตรเครดิตอย่างมีสติ ไม่ให้เกิดหนี้สะสม
2. ทักษะการสื่อสารและการเจรจาต่อรอง
ทักษะการสื่อสารที่ดีเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จทั้งในชีวิตส่วนตัวและอาชีพ แต่ทักษะนี้กลับไม่ค่อยถูกสอนในห้องเรียน ความสามารถในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเจรจาต่อรอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องการต่อรองเงินเดือน หรือการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องเผชิญเมื่อเข้าสู่วัยทำงาน
การวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดชี้ว่า ผู้ที่มีทักษะการสื่อสารที่ดีมักจะประสบความสำเร็จในการเจรจาต่อรองและได้รับผลประโยชน์มากขึ้นในชีวิตการทำงาน การรู้จักใช้คำพูดอย่างสร้างสรรค์และสามารถเจรจาได้อย่างมืออาชีพจึงเป็นทักษะสำคัญที่ทุกคนควรมี
สิ่งที่ควรรู้:
การฟังอย่างตั้งใจ: ไม่ใช่แค่การพูด แต่การฟังคนอื่นอย่างใส่ใจเป็นทักษะที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
การใช้คำพูดที่เหมาะสม: รู้จักเลือกใช้คำพูดที่สุภาพและชัดเจนในการสื่อสาร
การเจรจาต่อรอง: เทคนิคการต่อรองที่ช่วยให้ได้รับผลประโยชน์โดยไม่ทำลายความสัมพันธ์
3. การบริหารเวลา
ทักษะการบริหารเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการจัดการงาน การเรียน และชีวิตส่วนตัว แต่กลับไม่ค่อยมีการสอนอย่างชัดเจนในโรงเรียน แม้ว่าเด็กนักเรียนจะต้องจัดการเวลาในการทำการบ้านและการสอบ แต่เมื่อเข้าสู่วัยทำงาน การจัดการเวลาในการทำงานให้เสร็จทันตามกำหนดจะเป็นสิ่งที่ท้าทายมากกว่า
การวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดระบุว่า คนที่สามารถจัดการเวลาได้ดีจะมีประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้นและมีความเครียดลดลง การรู้จักวางแผนและจัดลำดับความสำคัญของงานช่วยให้คุณทำงานได้เสร็จตามเป้าหมายและลดความกังวลเกี่ยวกับเวลาที่เหลือ
สิ่งที่ควรรู้:
การจัดลำดับความสำคัญ: รู้จักแยกแยะว่างานใดสำคัญที่สุดและควรทำก่อน
การใช้เครื่องมือช่วยจัดการเวลา: เช่น แอปพลิเคชันช่วยเตือน หรือเทคนิคการจัดเวลาอย่าง Pomodoro
การป้องกันการเสียเวลา: ลดการทำกิจกรรมที่ไม่จำเป็นหรือลดการใช้โซเชียลมีเดียในเวลางาน
4. การดูแลสุขภาพจิต
ในปัจจุบันสุขภาพจิตกลายเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะในวัยรุ่นและวัยทำงาน เนื่องจากความกดดันจากการเรียนและการทำงาน เมื่อโตขึ้นจะพบว่าเราต้องเผชิญกับความเครียดในหลาย ๆ ด้าน แต่เรื่องนี้กลับไม่ค่อยมีการสอนในระบบการศึกษา
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ความเครียดในวัยรุ่นมีแนวโน้มสูงขึ้น การดูแลสุขภาพจิตไม่ใช่แค่เรื่องของการแก้ปัญหาเมื่อเกิดความเครียด แต่เป็นการดูแลสุขภาพใจให้แข็งแรงตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งช่วยให้เราสามารถรับมือกับปัญหาในชีวิตได้ดีขึ้น
สิ่งที่ควรรู้:
การรับมือกับความเครียด: เทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ การออกกำลังกาย หรือการนั่งนิ่ง ๆ สัก 5 นาที
การดูแลความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง: การมีคนที่คอยสนับสนุนและรับฟังจะช่วยเสริมสร้างความสุขทางใจ
การขอความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น: ไม่ควรเก็บปัญหาไว้คนเดียว หากรู้สึกเครียดหรือวิตกกังวล ควรขอความช่วยเหลือจากคนใกล้ชิดหรือผู้เชี่ยวชาญ
5. กฎหมายพื้นฐาน
กฎหมายเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราทุกคน แต่หลายคนกลับไม่รู้จักหรือไม่เข้าใจกฎหมายพื้นฐานที่ควรทราบ เช่น สิทธิและหน้าที่ของตนเอง การทำสัญญา หรือกฎหมายแรงงาน ในขณะที่เราอาจต้องเจอกับเรื่องทางกฎหมายเมื่อโตขึ้น เช่น การเช่าบ้าน การกู้ยืม หรือการเซ็นสัญญาต่าง ๆ การไม่เข้าใจกฎหมายอาจทำให้เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดได้
สิ่งที่ควรรู้:
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์: เรื่องเกี่ยวกับสัญญา การซื้อขาย และการกู้ยืม
กฎหมายแรงงาน: สิทธิในการทำงานและการได้รับค่าตอบแทนอย่างเป็นธรรม
กฎหมายครอบครัว: สิทธิและหน้าที่ในครอบครัว เช่น การสมรสและการรับเลี้ยงบุตร
6.ภาษี
การจ่ายภาษีเป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องทำเมื่อเริ่มทำงาน แม้ว่าหลายคนจะทราบว่าต้องจ่ายภาษีรายได้ แต่การคำนวณภาษี การเตรียมเอกสาร และการยื่นภาษีมักไม่ถูกสอนในโรงเรียน ระบบการจ่ายภาษีในประเทศไทยมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ เช่น การลดหย่อนภาษี การคำนวณรายได้ที่ต้องเสียภาษี และการยื่นภาษีผ่านระบบออนไลน์ การเรียนรู้เรื่องภาษีจะช่วยให้คุณสามารถจัดการการเงินได้อย่างถูกต้อง และไม่ต้องกังวลเรื่องการเสียค่าปรับในภายหลัง
จากข้อมูลของกรมสรรพากร พบว่ามีผู้ที่ยื่นภาษีล่าช้าหรือไม่ยื่นเอกสารอย่างถูกต้อง ทำให้เกิดการเสียค่าปรับ ดังนั้นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบภาษีจะช่วยลดความเสี่ยงในส่วนนี้ได้
สิ่งที่ควรรู้:
ประเภทของภาษี: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา, ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
วิธีการยื่นภาษี: การเตรียมเอกสารและยื่นผ่านระบบออนไลน์
การลดหย่อนภาษี: ใช้สิทธิ์ลดหย่อน เช่น การซื้อประกัน, การบริจาคเงิน, หรือการลงทุนในกองทุนรวม
7.การซื้อประกัน
การทำประกันเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้ใหญ่หลายคนต้องเผชิญเมื่อเข้าสู่วัยทำงาน ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือประกันทรัพย์สิน การมีประกันเป็นการป้องกันความเสี่ยงและช่วยคุ้มครองตัวเองและครอบครัวในกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด การซื้อประกันที่ถูกต้องจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเมื่อต้องการรักษาพยาบาลหรือเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) คนไทยยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันภัยในบางส่วน โดยเฉพาะวิธีเลือกประกันที่เหมาะสมกับตนเอง ดังนั้น การเรียนรู้เรื่องการประกันตั้งแต่อายุน้อยจะช่วยให้คุณสามารถเลือกประกันที่ตอบโจทย์ได้มากขึ้น
สิ่งที่ควรรู้:
ประเภทของประกัน: ประกันชีวิต, ประกันสุขภาพ, ประกันอุบัติเหตุ, และประกันทรัพย์สิน
การเลือกซื้อประกัน: เลือกประกันที่เหมาะกับความต้องการและความสามารถในการชำระเบี้ย
การเปรียบเทียบแผนประกัน: ศึกษารายละเอียดของแต่ละบริษัทประกัน เพื่อเลือกแผนที่คุ้มค่า
การเรียนรู้สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เด็กไทยสามารถเตรียมพร้อมสำหรับชีวิตในวัยผู้ใหญ่ได้ดีขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งพาการลองผิดลองถูกด้วยตนเอง การเข้าใจและสามารถใช้ทักษะเหล่านี้จะทำให้การใช้ชีวิตในสังคมมีความราบรื่นและมั่นคงมากขึ้น